กำลังโหลด...

×



HRM / HRD นักเดินทางท่องชีวิต

magazine image
HRM / HRD

นักเดินทางท่องชีวิต

วิชัย อุตสาหจิต

24 กุมภาพันธ์ 2565

             “ชีวิต คือการเดินทาง”
             คำกล่าวที่เราหลายคนเคยได้ยิน และรับรู้ในความเป็นจริงว่าชีวิตของเราก็เป็นเช่นนั้น 
             ชีวิตเป็นการเดินทางที่เราล้วนต้องเผชิญ ต้องพานพบเส้นทางที่แตกต่างหลากหลาย ต้องเผชิญกับความท้าทายมากบ้างน้อยบ้าง และในทุกการเดินทางของเรานั้น เราเตรียมตัวอย่างไร เรามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เราผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยดีเพียงใด และเราได้เรียนรู้อะไรจากประสบการณ์การเดินทางเหล่านั้นมาบ้าง
             เมื่อกล่าวถึงการเดินทาง มีคำสองคำที่น่าสนใจ ที่ใช้เรียกผู้เดินทางไว้แตกต่างกัน คือ นักท่องเที่ยว หรือ Tourist และนักเดินทาง หรือ Traveler และมีผู้ให้คำอธิบายถึงความแตกต่างของทั้งสองคำนี้ไว้มากพอสมควร บทความนี้ขอประมวลมานำเสนอท่านผู้อ่าน และชวนขบคิดไว้คร่าวๆ ดังนี้
             ในเบื้องต้น นักท่องเที่ยว หมายถึง บุคคลที่เดินทางจากถิ่นที่อยู่ของตนไปยังท้องที่อื่นเป็นการชั่วคราว ด้วยความสมัครใจ และด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อความเพลิดเพลินหรือเพื่อการพักผ่อน ได้รับความสุขจากการได้ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ เช่น การชมเมืองหรือชมธรรมชาติ การชอปปิง การไปรับประทานอาหาร และการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น
             ส่วนนักเดินทาง หมายถึง บุคคลที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และอาศัยอยู่ในที่นั้นๆ ระยะเวลาหนึ่ง เพื่อศึกษาเรียนรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ให้ชีวิต เช่น ไปเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คน เรียนรู้วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ศิลปะ ทั้งด้านสถาปัตยกรรม โบราณสถาน และภาษา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่น และเรียนรู้วิถีธรรมชาติ ศึกษาพันธุ์พืชหรือพันธุ์สัตว์นานาชนิด เป็นต้น
            นอกจากนี้ ยังมีผู้กล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง “นักท่องเที่ยวและนักเดินทาง” ไว้ในหลายมิติ ดังนี้
            ความแตกต่างด้านการวางแผนการเดินทาง นักท่องเที่ยวมักจะวางแผนการเดินทางไปตามจุดที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป มีการวางแผนการเดินทาง การเข้าพัก สถานที่แวะเที่ยว หรือจุดแวะพักอย่างชัดเจนแน่นอน ส่วนนักเดินทางมักจะวางแผนเดินทางไปตามจุดที่ตนเองสนใจ จุดที่เป็นแหล่งข้อมูลหรือเป็นสถานที่ที่มีวิถีความเป็นอยู่ที่น่าศึกษาเรียนรู้ และมีการวางแผนการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่เน้นเส้นทางและการเข้าพักในสถานที่ที่ใกล้ชิดกับวิถีธรรมชาติที่ตนสนใจ หรืออาจใช้การวางแผนคร่าวๆ แค่จุดหมายหลักที่จะไป และที่เหลือนอกจากนั้นจะพิจารณาจากสถานการณ์ระหว่างการเดินทาง
            ความแตกต่างในด้านการนำสิ่งของสัมภาระติดตัวไป ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะนำสัมภาระต่างๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับตัวเองเป็นหลัก และมักชอบพกพาสัมภาระไปเยอะเกินความจำเป็น (จนอาจกลายเป็น “สัมภารก”) แต่ถ้าหากเป็นนักเดินทาง สัมภาระที่นำพาไปส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของการนำสิ่งที่จะได้ใช้ประโยชน์ระหว่างเดินทางเป็นหลัก และจะไม่พยายามพกพาสัมภาระไปเยอะเกินความจำเป็น
            ความแตกต่างของช่วงระหว่างการเดินทางไปยังจุดหมาย หากเป็นนักท่องเที่ยว ส่วนมากมักจะให้ความสำคัญกับจุดมุ่งหมายหลักระหว่างการเดินทาง หรือจุดหมายปลายทางสุดท้าย และดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะต้องการให้ตัวเองถึงที่หมายอย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่สำหรับนักเดินทาง มักจะให้ความสนใจในทุกๆ รายละเอียดระหว่างการเดินทาง ทุกๆ สถานที่ที่เดินทางผ่าน พร้อมเปิดรับการผจญภัยที่นำไปสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการวางแผนล่วงหน้า
            ความแตกต่างในการพักผ่อน นักท่องเที่ยวมักต้องการความสะดวกสบายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว มีเวลาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ สถานที่พักค้างแรมต้องเอื้อให้ได้รับการพักผ่อน นอนหลับอย่างเพียงพอ ส่วนนักเดินทาง การพักผ่อนของพวกเขาเกิดขึ้นจากการได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า สถานที่พักอาจไม่จำเป็นต้องหรูหรา หรือสะดวกสบายมากนัก แต่เป็นไปตามความเหมาะสมของแต่ละสถานที่
            ความแตกต่างของสมาชิกร่วมการเดินทาง นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะชื่นชอบการเดินทางแบบหมู่คณะหรือเป็นกลุ่ม มีความสุข สนุกสนานกับการทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนนักเดินทางมักจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับจำนวนผู้ร่วมเดินทาง แต่จะให้ความสำคัญกับลักษณะของผู้ร่วมเดินทางมากกว่า คือให้ความสำคัญว่าผู้ที่จะร่วมเดินทางไปด้วยควรมีมุมมอง อุปนิสัยใจคอ และความสนใจคล้ายกัน ซึ่งหากหาผู้ร่วมเดินทางแบบนั้นไม่ได้ ก็พร้อมที่จะออกเดินทางคนเดียวโดยไม่ต้องรอใคร เพราะสามารถมีความสุขจากการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการทำกิจกรรมร่วมกับบุคคลอื่นที่อาจได้พบระหว่างการเดินทาง
            ความแตกต่างประเด็นสุดท้ายที่จะนำเสนอในที่นี้ คือ ความแตกต่างด้านการบันทึกความทรงจำ สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว มักจะเก็บภาพของตัวเองและกลุ่มเพื่อนคู่กับบรรยากาศโดยรอบเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ได้รู้ว่าตนเองเคยมาที่นี่ แต่สำหรับนักเดินทางนั้น มักจะชอบเก็บภาพต่างๆ ในทุกรายละเอียดของสถานที่ วิถีชีวิต และกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการบันทึกประสบการณ์และการเรียนรู้ที่ได้รับในระหว่างการเดินทาง
            จากรายละเอียดที่ได้รวบรวมไว้ตามข้อความข้างต้น น่าจะพอทำให้เราได้นำมาพิจารณาตัวเองว่า เวลาที่เรามีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ นั้น เรามีแนวโน้มแสดงพฤติกรรมแบบนักท่องเที่ยวหรือแบบนักเดินทาง เราวางแผนการเดินทางอย่างไร เราเลือกจุดหมายปลายทางหรือสถานที่ท่องเที่ยวแบบไหน เรานำสัมภาระหรือพกพาอะไรติดตัวไปบ้าง เราใช้เส้นทางหรือวิธีการเดินทางแบบใดบ้าง ระหว่างทางเราทำกิจกรรมอะไร และเมื่อไปถึงจุดหมายแล้วเราทำกิจกรรมอะไร กับใคร เราเลือกที่พักแบบใด เราเดินทางไปกับใคร เราพักผ่อนอย่างไร และเราบันทึกความทรงจำของเราอย่างไร
            หากจะลองนำความแตกต่างของนักท่องเที่ยวและนักเดินทางมาลองพิจารณาเปรียบเทียบกับการเดินทางในชีวิตของเราแล้ว ก็น่าสนใจไม่น้อยว่าเรากำลังมีพฤติกรรมเดินทางแบบใด แบบนักท่องเที่ยว หรือนักเดินทาง
นักท่องเที่ยวอาจจะวางแผนการเดินทางไปสู่การมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมของคนทั่วไป และมีการวางแผนการเดินทางอย่างค่อนข้างชัดเจน ส่วนนักเดินทางมักจะวางแผนเดินทางไปสู่จุดหมายที่ตนเองสนใจ และให้คุณค่า เป็นสิ่งที่น่าศึกษาเรียนรู้ มีความสอดคล้องใกล้ชิดกับวิถีธรรมชาติ อาจมีการวางแผนเดินทางคร่าวๆ ไปยังจุดหมายหลัก และเปิดพื้นที่สำหรับการพิจารณาปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ในระหว่างการเดินทาง
            นักท่องเที่ยวมักจะสะสมและพกพาสัมภาระต่างๆ มากมายเพื่อใช้อำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตของตัวเองเป็นหลัก มีแนวโน้มสะสมสัมภาระในชีวิตมากเกินความจำเป็น แต่ถ้าหากเป็นนักเดินทาง สัมภาระที่จะสะสมและพกพาส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของสิ่งที่จะได้ใช้ประโยชน์ในชีวิตเป็นหลัก และจะไม่พยายามสะสมสัมภาระในชีวิตจนมากเกินความจำเป็น
            นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะให้ความสำคัญกับจุดมุ่งหมายหลักในระหว่างการเดินทาง หรือจุดหมายปลายทางสุดท้าย พยายามทำทุกอย่างให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะต้องการให้ตัวเองถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับนักเดินทาง มักจะให้ความสนใจในทุกๆ รายละเอียดระหว่างการเดินทาง มีความสุขและสนุกกับทุกๆ เส้นทางชีวิตที่เดินทางผ่าน พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะผ่านเข้ามาในชีวิต
            นักท่องเที่ยวมักต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ให้ความสำคัญกับการสร้างความสุขให้กับตนเอง ส่วนนักเดินทาง ความสุขของการใช้ชีวิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าในชีวิตของพวกเขา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความหรูหราหรือความสะดวกสบายอะไรมากนัก แต่ให้ความสำคัญกับการได้ช่วยเหลือและแบ่งปันเพื่อสร้างความสุขให้กับคนรอบข้าง
            นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะชื่นชอบการใช้เวลากับเพื่อนเป็นหมู่คณะ มีความสุข สนุกสนานกับการทำกิจกรรมร่วมกัน ส่วนนักเดินทางมักจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการใช้เวลากับผู้คนจำนวนมากมากนัก แต่จะให้ความสำคัญกับลักษณะของผู้ที่มีมุมมอง อุปนิสัยใจคอ และความสนใจคล้ายกัน และมีความพร้อมที่จะใช้เวลาอยู่กับตนเองเพื่อการทบทวน ขัดเกลา และพัฒนาตนเอง
            นักท่องเที่ยว มักจะบันทึกความทรงจำที่เป็นเรื่องราวความสำเร็จของตัวเอง เพื่อให้ได้รู้ว่าตนเองประสบความสำเร็จอะไรบ้าง แต่สำหรับนักเดินทางนั้น มักจะชอบบันทึกความทรงจำที่เป็นเรื่องราววิถีชีวิต ประสบการณ์และการเรียนรู้ที่ได้รับ เพื่อให้รู้ว่าตนเองได้เดินทางผ่านเส้นทางแบบใดในชีวิตมาบ้าง ได้ดำเนินชีวิตที่มีคุณค่า และได้สร้างประโยชน์ใดให้กับตนเอง ผู้อื่น และสังคมมากน้อยเพียงใด
            แต่ไม่ว่าท่านจะกำลังเดินทางในชีวิตเป็นแบบใด นักท่องเที่ยวหรือนักเดินทาง หรือผสมผสานทั้งสองแบบ บทความนี้ก็คงไม่สามารถตัดสินให้ท่านได้ว่าแบบใดดี แบบใดไม่ดี แบบใดเหมาะ หรือแบบใดไม่เหมาะ เพราะสิทธิในการตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตและกิจกรรมชีวิตเป็นของท่าน
           สำหรับในสถานการณ์ที่ท้าทายและวิกฤตโรคระบาดที่เรากำลังเผชิญ เสมือนเป็นการเดินทางที่ยาวไกล บางช่วงเหมือนจุดหมายปลายทางกำลังจะปรากฏให้เห็นอยู่เบื้องหน้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก ภาพนั้นก็ดูเหมือนจะเลือนรางจางหายไปอีก เรายังคงต้องเดินทางในเส้นทางวิกฤตนี้กันอีกนานพอสมควร 
           และที่สำคัญ เมื่อผ่านเส้นทางวิกฤตนี้ไปแล้ว เส้นทางข้างหน้าที่รอเราอยู่จะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่ที่น่าจะพอคาดเดาได้ก็คือ คงเป็นความท้าทายสำหรับทุกคนบ้างไม่มากก็น้อย
           คำถามคือ แล้วเราควรจะปฏิบัติตัวอย่างคนกลุ่มใด
           นักเดินทาง หรือนักท่องเที่ยว
           “นักท่องเที่ยว” ถ่ายรูปตัวเอง “นักเดินทาง” ถ่ายรูปสถานที่หรือสิ่งอื่น
           “นักท่องเที่ยว” เน้นความเพลิดเพลิน “นักเดินทาง” เน้นการเพิ่มพูนประสบการณ์
           “นักท่องเที่ยว” ใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง “นักเดินทาง” ใช้ตัวเอง คนรอบข้าง และธรรมชาติเป็นศูนย์กลาง
           “นักท่องเที่ยว” เตรียมสัมภารก “นักเดินทาง” เตรียมสัมภาระ
           “นักท่องเที่ยว” สะสมและพกพาทุกสิ่งอย่าง “นักเดินทาง” สะสมสิ่งที่เป็นประโยชน์และพกพาสิ่งที่มีสาระ
           “นักท่องเที่ยว” ต้องการความแน่นอน “นักเดินทาง” พร้อมรับและผจญภัยกับความท้าทาย พร้อมปรับตัวเป็นนักสำรวจ เป็นนักผจญภัย
            แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ที่แน่ๆ เราล้วนเป็นนักเดินทางท่องชีวิตกันทั้งสิ้น นักเดินทางท่องชีวิตที่ต้องเผชิญกับประสบการณ์ที่หลากหลาย และความท้าทายอีกมากมายที่เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน เรียนรู้ และพัฒนาตน ขอปิดท้ายบทความนี้ด้วยความคิดเล็กๆ ของผู้เขียนในช่วงเวลาของสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ที่ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทางท่องเที่ยวสำหรับทุกคน

           “...เวลาได้เดินทางท่องเที่ยว
           รู้สึกโชคดี
           ที่มีโอกาสได้เดินทางท่องโลก
           เพื่อการเรียนรู้

          เวลาไม่ได้เดินทางท่องเที่ยว
          ก็รู้สึกโชคดี
          ที่มีโอกาสได้เดินทางท่องใจ
          เพื่อการขัดเกลาตนเอง

         เพราะ
        ชีวิตคือการเดินทาง

         สุข สงบ ตามสมควร...”

Top 5 Contents