กำลังโหลด...

×



HRM / HRD ลูกกระรอกกับต้นมะละกอ

magazine image
HRM / HRD

ลูกกระรอกกับต้นมะละกอ

วิชัย อุตสาหจิต

23 กุมภาพันธ์ 2565

               บทความฉบับนี้ขอชวนท่านผู้อ่านตกผลึกความคิด ด้วยเนื้อหาที่แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมาสักเล็กน้อย โดยขอเป็นการเล่านิทาน เรื่อง “ลูกกระรอกกับต้นมะละกอ (แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงหลังบ้าน)” ที่ไม่เคยถูกเล่าที่ใดมาก่อน มีที่นี่ที่เดียว โดยเรื่องเป็นดังนี้
               “...ด้วยความที่เจ้าของบ้านหลังน้อยหลังหนึ่งในเมือง และสมาชิกครอบครัวในบ้านนั้นเกือบทุกคน เป็นผู้ที่นิยมรับประทานส้มตำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะตำไทย ตำลาว ตำโคราช หรือตำมั่วตำซั่ว ในแต่ละสัปดาห์ต้องมีไม่ต่ำกว่า 3 ถึง 4 มื้อที่มีเมนูส้มตำบนโต๊ะอาหาร โดยจัดซื้อมาจากร้านส้มตำในซอยที่มีอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 ร้าน รวมกับรถเข็นสัญจรอีกหลายเจ้า เรียกได้ว่า สมาชิกคนใดชอบรสมือร้านใด เลือกสรรให้ได้ถูกใจทุกคน
               วันดีคืนดี เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวนึกสนุก ต้องการทำกิจกรรมประกอบอาหารร่วมกันภายในครอบครัว จึงช่วยกันเลือกเมนูอาหารในมื้อเย็นวันนั้น และจัดหาวัตถุดิบสำคัญต่างๆ มาพร้อมเสร็จสรรพ ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในเมนูมื้อนั้นก็คือส้มตำ 
               ผลประกอบการวันนั้นออกมาดีเยี่ยม สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมทำกันอย่างสนุกสนาน และอาหารอร่อยทุกอย่าง จนได้ข้อสรุปร่วมกันในครอบครัวนั้นว่า จะหาโอกาสทำกิจกรรมประกอบอาหารร่วมกันให้บ่อยขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นการใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของบ้านได้อีกด้วย 
              และเมื่อส้มตำเป็นอาหารจานโปรดของบ้าน ทุกคนจึงลงความเห็นว่า จะต้องหาต้นมะละกอมาปลูกไว้หลังบ้าน เพราะมะละกอเป็นวัตถุดิบหลักของการทำส้มตำ อีกทั้งมะละกอยังสามารถรับประทานได้ทั้งดิบและสุก ปลูกง่ายดูแลไม่ยาก หากต้องการรับประทานเมื่อใดก็จะสามารถหาวัตถุดิบได้ทันทีจากหลังบ้าน
             ไม่นานนัก สมาชิกในครอบครัวก็หาต้นอ่อนมะละกอมาปลูกที่บ้าน โดยมีการเลือกเฟ้นสายพันธุ์ที่เป็นต้นกะเทย เพื่อให้ติดลูกและมีผลที่ดีมีคุณภาพ และนำต้นอ่อนขนาดเล็กสองต้นลงดินไว้บริเวณสวนหลังบ้าน และเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน ต้นมะละกอสองต้นนั้นก็เติบโตจนสูงเกือบเท่าระดับศีรษะของผู้ที่สูงที่สุดในบ้าน และเริ่มออกดอกให้ได้เชยชม
            สมาชิกหลายคนในบ้านเฝ้ารอดูการเติบโตของดอกมะละกอด้วยความตื่นเต้นดีใจ เพราะเป็นต้นมะละกอสองต้นแรกของบ้านท่ามกลางพืชผักสวนครัวต้นเล็กๆ หลายชนิดที่ปลูกไว้ให้ได้เก็บกินในพื้นที่จำกัดของสวนหลังบ้านเล็กๆ อาทิ กะเพรา โหระพา และพริก โดยทุกคนคาดหวังว่าในอีกไม่นานคงได้รับประทานเมนูส้มตำโดยใช้วัตถุดิบจากมะละกอหลังบ้าน รวมถึงมะละกอสุกพร้อมเสริฟ์เป็นอาหารว่างให้กับทุกคนด้วย แต่ต่อมาไม่นานนัก สมาชิกที่ไม่ได้รับเชิญก็เริ่มมาเยี่ยมเยือนต้นมะละกอหลังบ้าน เจ้าลูกกระรอกผู้ซุกซนกับแม่กระรอกผู้สุขุม 
           เจ้าลูกกระรอกดูจะตื่นเต้นกับสิ่งรอบตัวไปเสียทุกอย่าง มันกระโดดโลดเต้นอย่างลิงโลด จากต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง กิ่งหนึ่งไปยังอีกกิ่งหนึ่ง ด้วยสัญชาตญาณของความเยาว์วัยที่สนใจใคร่รู้ไปเสียทุกเรื่อง แม้แม่กระรอกจะคอยร้องเตือนให้ระมัดระวังและคอยสังเกตสิ่งรอบตัวเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงอันตรายใดอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่วายที่เจ้าลูกกระรอกจะพลาดพลั้งตกจากลงไปที่กิ่งต้นไม้ต้นอื่นบ้าง หรือตกลงไปที่พื้นบ้าง แต่มันก็ยังดูเหมือนจะสนุกสนานเริงร่าต่อไปได้อย่างไร้กังวล
กระรอกสองตัวนี้อิ่มเอมกับแหล่งอาหารที่มีอยู่รอบตัวจากสวนหลังบ้านของหลายครอบครัวในละแวกเดียวกันนี้ ทั้งไม้ต้น ไม้ใบ ไม้ดอก และไม้ผล วันดีคืนดี เจ้าลูกกระรอกก็ค้นพบแหล่งอาหารใหม่อันโอชะ ต้นอะไรหนอ มาอยู่ใหม่สองต้น กินได้หรือไม่หนอ คงต้องขอลองดูสักหน่อย
          ระหว่างที่เจ้าลูกกระรอกกำลังแทะกิ่งมะละกอ แม่กระรอกรีบตะโกนบอกอย่างเร็วว่า ห้ามกิน! เพราะไม่ใช่อาหารที่ดีของพวกเรา ส่วนของกิ่งไม่อร่อยและอาจทำให้เจ้าเจ็บป่วยไม่สบายท้องเอาได้ เราต้องรอให้ต้นนี้ออกดอกและกลายเป็นผลเสียก่อน ผลของมันจะเป็นอาหารอันโอชะของพวกเรา แม่กระรอกกล่าวสอนจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง
          เจ้าลูกกระรอกชะงักทันที รับฟังสิ่งที่แม่กระรอกบอกอย่างตั้งใจ และรับปากกับแม่กระรอกไว้ว่าจะรอกินผลของต้นไม้ประหลาดสองต้นนี้ ว่าแต่ ผลของมันหน้าตาเป็นอย่างไร อยากเห็นจริงๆ เจ้าลูกกระรอกคิดในใจ
หลายวันต่อมา เจ้าลูกกระรอกวิ่งไปหาแม่กระรอกด้วยความตื่นเต้นดีใจตั้งแต่เช้าตรู่ พลางตะโกนร้องบอกแม่ว่า หนูเห็นผลของต้นไม้ประหลาดสองต้นนั้นแล้ว หนูไปชิมมันมาเรียบร้อยแล้วด้วย มันอร่อยมากจริงๆ อย่างที่แม่บอกไว้ 
เมื่อได้รับฟังดังนั้น แม่กระรอกก็พลอยตื่นเต้นดีใจไปกับลูกด้วย แต่ก็อดคิดในใจอยู่ไม่ได้ว่า หลายวันที่ผ่านมา เราออกหาอาหาร ยังไม่เห็นผลไม้ใดจากต้นนั้นเลย ทำไมเจ้าลูกกระรอกถึงไปเจอเอาได้ สงสัยเราคงจะมองไม่เห็นเพราะตาเริ่มฝ้าฟาง และลูกของเราช่างตาดีนัก เสาะหาอาหารเก่ง
         เจ้าลูกกระรอกวิ่งนำแม่ไปถึงต้นประหลาดสองต้นนั้น พลางชี้ชวนให้แม่ดูผลที่ออกอยู่ตามลำต้นมากมายอย่างตื่นเต้น เมื่อแม่กระรอกเห็นก็ต้องรีบร้องห้ามออกมาอย่างตกใจว่า อย่าเพิ่งกินนะลูก! พวกนั้นไม่ใช่ผลของมัน มันคือดอก ยังไม่ใช่ผล ดอกเหล่านี้จะเติบโตจนกลายเป็นผลที่มีขนาดใหญ่และรสชาติอร่อยกว่าตอนนี้อีกมากมายนัก เรายังไม่ควรกินดอกเหล่านี้ของมันนะลูก เราต้องอดใจรอเวลาให้ดอกเหล่านี้เติบโตเป็นผลเสียก่อน อีกไม่นานเกินรอจ้ะลูก
         เจ้าลูกกระรอกงุนงงเล็กน้อยกับคำอธิบายของแม่ และบอกแม่ไปว่า แต่รสชาติของมันอร่อยมากเลยนะแม่ หนูกินมันไปหลายอันแล้ว อร่อยจริงๆ อร่อยจนไม่อยากหยุดเลย แม่ลองชิมไหม แม่เคยลองชิมหรือยัง
         แม่กระรอกตอบว่า แม่เคยลองชิมแล้วจ้ะ และแม่ก็รู้ว่ามันรสชาติดี แต่หากมันเติบโตไปเป็นผล รสชาติมันจะดีกว่าตอนนี้ที่มันเป็นดอกอีกมากมายนัก เชื่อแม่ รอก่อนนะลูก รอให้มันเติบโตกลายเป็นผลลูกใหญ่เสียก่อน
         เจ้าลูกกระรอกตอบรับคำแม่อย่างเสียดาย นึกน้อยใจว่าทำไมแม่จึงห้ามไม่ให้เรากินของอร่อย ทั้งๆ ที่มีดอกอยู่มากมายเต็มต้น พอให้เราได้อิ่มกันทั้งแม่ทั้งลูก แต่สุดท้าย เจ้าลูกกระรอกก็ต้องยอมละสายตาออกจากต้นไม้ประหลาดสองต้นนั้น วิ่งตามแม่กระรอกไปหาอาหารจากต้นไม้ต้นอื่นต่อในตอนสายของวันนั้น
        วันต่อๆ มา ลูกกระรอกพยายามไม่นึกถึงรสชาติอันโอชะและทำเป็นไม่สนใจดอกของต้นประหลาดสองต้นนั้น แต่จนแล้วจนรอด ทุกครั้งที่มันวิ่งผ่านก็ยังทำใจไม่เหลือบมองไม่ได้ ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นบรรดาดอกน้อยใหญ่เติบโตขยายขนาดเต็มต้นไปหมด น่ากินเหลือเกิน กระรอกน้อยคิดในใจ จนในที่สุดวันหนึ่ง เจ้าลูกกระรอกก็ไม่สามารถอดใจไว้ได้ จึงหาจังหวะแอบวิ่งไปกินตอนที่แม่กระรอกกำลังเผลอ และวิ่งกลับมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทุกครั้งไป
        นานวันเข้า แม่กระรอกรู้สึกผิดสังเกต เพราะดูเหมือนลูกกระรอกจะกินน้อยลง อิ่มเร็ว ไม่เจริญอาหารเหมือนแต่ก่อน จึงเอ่ยถามลูกว่า ลูกไม่สบายหรือเปล่า ทำไมกินน้อยลง เจ้าลูกกระรอกตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า หนูกินโน่นกินนี่ไปเยอะมาก แม่อาจจะไม่ทันเห็นจ้ะ
        ผ่านไปหลายวัน แม่กระรอกตัดสินใจพาลูกแวะเวียนไปดูดอกของต้นประหลาดสองต้นนั้น ด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นดอกบางส่วนได้เติบโตเป็นผลที่มีขนาดใหญ่ พร้อมเป็นอาหารอันโอชะของตนเองและลูกได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อไปถึง ภาพที่เห็นเบื้องหน้าก็ทำให้ตกใจเป็นอย่างมาก ดอกน้อยใหญ่บนต้นสองต้นนั้น เหลืออยู่ไม่มากนัก มีร่องรอยของการถูกกัดกินไปเกือบหมด ดอกใหญ่ๆ ที่น่าจะเติบโตกลายเป็นผลแล้วก็ไม่เหลือหลอ แม้จะมีดอกเล็กๆ ดอกใหม่พยายามงอกแตกยอดออกมา แต่ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะเติบโตเป็นแหล่งอาหารสำหรับกระรอกทั้งสองตัว 
        แม่กระรอกรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง ครุ่นคิดว่า แถบนี้เป็นอาณาบริเวณแหล่งอาหารของครอบครัวเรา ไม่น่าจะมีกระรอกครอบครัวอื่นใดรุกล้ำเข้ามาได้ อีกทั้งบริเวณนี้ก็ไม่มีเพื่อนสัตว์อื่นใดที่กินสิ่งนี้เป็นอาหาร แล้วใครกันหนอที่เข้ามากัดกินดอกผลเหล่านั้น หรือเราจะมีเพื่อนบ้านที่มาอยู่ใหม่โดยที่เราไม่รู้ หรืออาจจะเป็นมนุษย์เจ้าของบ้าน
        แม่กระรอกหันไปถามลูกว่า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าได้เห็นอะไรผิดปกติในบริเวณบ้านและแหล่งอาหารของพวกเราหรือไม่ 
        เจ้าลูกกระรอกรีบตอบทันทีว่า ไม่มี ลูกไม่เห็นอะไรผิดปกติเลย และแม้แม่กระรอกจะซักถามสักกี่รอบ คำตอบของลูกกระรอกก็ยังคงเหมือนเดิม
        หลายวันต่อมา ลูกกระรอกหาจังหวะตอนแม่เผลอ วิ่งมาที่ต้นประหลาดสองต้นนั้นอีกเช่นเคย กระโดดตรงไปที่ดอกน้อยใหญ่อันโอชะ และกัดกินอย่างเอร็ดอร่อยอย่างเช่นเคย แต่คราวนี้มันกลับไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของแม่ไปได้ แม่กระรอกเหลือบไปเห็นลูกของตนเองกำลังกัดกินดอกเหล่านั้นเข้าอย่างจัง
        มันรีบตะโกนห้ามลูกของตัวเอง หยุดเดี๋ยวนี้! ทำไมถึงไม่เชื่อฟังแม่ ทำไมจึงกัดกินดอกเหล่านี้ ทั้งๆ ที่แม่เคยสอนไว้แล้ว ทำไมไม่อดใจรอให้มันเติบโตเป็นผลใหญ่เสียก่อน
หนูอดใจไม่ไหวจ้ะแม่ หนูว่ามันอร่อยมากอยู่แล้ว ลูกกระรอกตอบ
        ลูกไม่ควรทำอย่างนี้ ลูกรู้หรือไม่ แม่กระรอกยืนยัน
        ลูกกระรอกอธิบาย หนูทำมาหลายครั้งแล้ว หนูก็เห็นมันงอกออกมาใหม่ทุกครั้ง หนูคิดว่า เราไม่เห็นจำเป็นต้องรอ เดี๋ยวมันก็งอกออกมาอีกเรื่อยๆ อีกอย่าง หนูไปคุยกับเพื่อนกระรอกวันก่อน เพื่อนกระรอกก็บอกว่า ที่บ้านเขาก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน
ลูกไม่เชื่อแม่ที่แม่สอนหรือ แม่กระรอกพูดและพยายามอธิบาย ดอกเหล่านั้นมันจะเติบโตขึ้นเป็นผล ที่มีรสชาติเอร็ดอร่อยไม่แพ้กันเลย แถมยังลูกใหญ่กว่า เป็นอาหารให้พวกเราได้ตั้งหลายมื้อ
        แต่แม่จ๊ะ หนูลองรอมาสักพักแล้ว ก็ไม่เห็นมันกลายเป็นผลสักที ลูกกระรอกตอบแม่
        ก็เพราะลูกยังรอไม่นานพออย่างไงเล่า แม่กระรอกอธิบายต่อ
        แต่ดอกเหล่านี้มันอาจจะไม่กลายเป็นผลก็ได้นะแม่ ลูกกระรอกยืนยันความคิดของตัวเอง แล้วเพื่อนๆ หนูบอกว่า แถวนี้ไม่มีใครเคยเห็นดอกที่กลายเป็นผลเลย เขาก็กินกันแบบนี้ทั้งนั้น ต้นประหลาดแบบนี้คงไม่มีผลแบบที่แม่บอก
       ก็เพราะแบบนั้นอย่างไงเล่า แม่ยืนยัน ก็เพราะพวกเขารีบกินดอกกันจนหมด ไม่มีใครรอให้มันเติบโตกลายเป็นผล จึงไม่มีโอกาสได้เห็น จึงไม่เคยเห็น แล้วจึงคิดไปกันเองว่าไม่มี
       แต่แม่ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว จะมีผลหรือไม่ก็ยังไม่รู้ รีบกินดอกเสียเลยดีกว่า ปล่อยไว้เราก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร และเราอาจจะอดกินเพราะคนอื่นอาจจะมาแย่งเรากินไปก่อนก็ได้ ลูกกระรอกยังยืนยันในความคิดของตัวเอง 
       เมื่อมาถึงตรงนี้ แม่กระรอกตัดสินใจหยุดอธิบาย...” และผู้เขียนก็ขอหยุดเล่านิทานเรื่องนี้ไว้ตรงนี้เช่นกัน และขอเชิญชวนท่านผู้อ่าน เล่าตอนจบของนิทานเรื่องนี้ต่อด้วยตัวท่านเอง ด้วยเพราะผู้เขียนเชื่อว่า หากนิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องในชีวิตจริง ก็มีความเป็นไปได้หลายแบบที่เรื่องนี้จะดำเนินต่อไป เช่น “แม่กระรอกโมโห แล้วต่อว่าลูกกระรอก เจ้าเป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมไม่เชื่อฟังพ่อแม่” หรือ “ลูกกระรอกพูดต่อว่า ก็วันก่อนหนูถามแม่เรื่องต้นไม้ประหลาดอีกต้นหนึ่ง แม่ก็ตอบหนูไม่ได้ เพราะแม่ไม่รู้จัก หนูไปลองกินใบมันดู มันก็กินได้และรสชาติดีนะแม่” หรือ “มนุษย์เจ้าของบ้าน ตัดสินใจจัดการกับเจ้าแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั้นอย่างเด็ดขาด” หรือ “แม่กระรอกกล่าวว่า ลูกเอ๋ย ลูกยังต้องเรียนรู้เติบโตอีกมากมายนัก ไม่เป็นไร แม่จะค่อยๆ สอนลูก ใช่จ้ะ แม่อาจจะไม่ได้รู้ทุกเรื่อง และยุคสมัยก็เปลี่ยนไป แต่แม่รักลูกสุดหัวใจเสมอ และความรักแม่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เอาอย่างนี้นะ เรามาค่อยๆ พูดคุยกัน เรียนรู้ไปด้วยกันดีไหมจ๊ะ”
       ไม่ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร นิทาน “เจ้าลูกกระรอกผู้ซุกซนกับแม่กระรอกผู้สุขุม” อาจจะไม่ต่างจาก นิทานเรื่อง “เจ้าเด็กจอมออนไลน์กับคุณพ่อยอดเฮี้ยบ” หรือนิทานเรื่อง “ลูกน้องยุคดิจิทัลกับเจ้านายสุดเก๋า” มากนักก็เป็นได้
แล้วจู่ๆ เสียงรำพึงนี้ ก็ดังขึ้นในใจ
       “การเลี้ยงดูลูกในยุคนี้นั้นแสนลำบาก... และการดูแลลูกน้องก็เช่นเดียวกัน”

Top 5 Contents