กำลังโหลด...

×



Accounting การควบรวมบริษัทจำกัดมีหลักการอย่างไร

magazine image
Accounting

การควบรวมบริษัทจำกัดมีหลักการอย่างไร

Q : การควบรวมบริษัทจำกัดมีหลักการอย่างไร ?

เมื่อพูดถึงการควบรวมบริษัทจำกัด จะขอกล่าวถึงหลักกฎหมายตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2565 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ดังนี้

ส่วนที่ 9 การควบรวมบริษัทจำกัด

มาตรา 1238 บริษัทจำกัดจะควบรวมกันได้โดยใช้มติพิเศษ

บริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป จะควบรวมในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้ (1) ควบรวมกันโดยเป็นบริษัทขึ้นใหม่ และบริษัทที่มาควบรวมกันต่างหมดสภาพการเป็นนิติบุคคล (2) ควบรวมกันโดยบริษัทหนึ่งบริษัทใดยังคงมีสภาพเป็นนิติบุคคล และบริษัทอื่นที่ควบรวมกันหมดสภาพจากการเป็นนิติบุคคล

มาตรา 1239 มติพิเศษซึ่งวินิจฉัยให้ควบรวมบริษัทจำกัด บริษัทต้องนำไปจดทะเบียนภายใน 40 วันนับตั้งแต่วันลงมติ

มาตรา 1240 เมื่อมีมติพิเศษให้ควบรวมบริษัทแล้ว บริษัทต้องมีหนังสือบอกกล่าวมติดังกล่าวภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้มีมติไปยังเจ้าหนี้ของบริษัทตามรายชื่อที่ปรากฏในบัญชีของบริษัท ณ วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้ควบรวมบริษัท โดยกำหนดเวลาให้ส่งคำคัดค้านภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกกล่าวมตินั้น และให้บริษัทโฆษณามตินั้นทางหนังสือพิมพ์รายวันที่แพร่หลายภายในกำหนดเวลา 14 วันนั้นด้วย

มาตรา 1242 เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนการควบรวมบริษัทแล้ว ให้นายทะเบียนหมายเหตุไว้ในทะเบียนดังนี้ (1) ในกรณีที่ควบรวมกันเป็นบริษัทขึ้นใหม่ ให้หมายเหตุว่าบริษัทเดิมที่ควบรวมกันนั้นหมดสภาพจากการเป็นนิติบุคคล (2) ในกรณีที่ควบรวมกันโดยมีบริษัทใดบริษัทหนึ่งยังคงมีสภาพเป็นนิติบุคคล ให้หมายเหตุว่าบริษัทอื่นที่เหลือนั้นหมดสภาพจากการเป็นนิติบุคคล

มาตรา 1243 บริษัทที่ควบรวมนี้ย่อมได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบบรรดามีอยู่แก่บริษัทเดิมอันได้มาควบรวมนั้นทั้งสิ้น

สรุปหลักการสําคัญ รวม โอน และควบ 

1. รวมกิจการ (ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์)

รูปภาพประกอบด้วย สัญลักษณ์, ออกแบบ

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ

    A           +           B         =           A    หรือ    B

  • A หรือ B (ที่ถูกนําไปรวม)     =       - เลิกกิจการโดยผลของกฎหมาย

                                                      - ไม่ต้องจดทะเบียนเลิก

                                                      - ไม่ต้องชำระบัญชี

  •    ไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี =       ถือว่ามีการขายเกิดขึ้น เสียทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล (CIT), ภาษี

                                                มูลค่าเพิ่ม (VAT), ภาษีธุรกิจเฉพาะ (SBT) และอากรแสตมป์

  •    เสียค่าธรรมเนียมการโอน / ในกรณีที่มีการโอนที่สํานักงานที่ดิน

         หมายเหตุ จะใช้วิธีนี้เฉพาะในกรณีที่ต้องการลดผลกําไรจากกิจการหนึ่งโดยการ นําผลขาดทุนสะสมของอีกกิจการหนึ่งที่มีมาใช้ จึงมักจะรวมกิจการโดยคงเหลือกิจการที่มีผลขาดทุนสุทธิคงเหลือมาก แต่ต้องรับภาระภาษีต่าง ๆ ในการโอน

2. โอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer : EBT)

รูปภาพประกอบด้วย ออกแบบ, พับ

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ

       A               โอน             B           =            B

หมายถึง การที่บริษัท A โอนกิจการทั้งหมดของตนไปให้แก่บริษัท B ทําให้บริษัท A สิ้นสภาพ จึงต้องจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการและต้องชําระบัญชี โดยต้องแจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์และกรมสรรพากร

  •    ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี          =     ไม่ถือว่าเป็นการขายและไม่ถือว่าเป็นรายได้ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล, ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (SBT), ได้รับยกเว้นอากรแสตมป์
  •    เสียค่าธรรมเนียมการโอน ในกรณีที่มีการโอนที่สํานักงานที่ดิน

3. การควบบริษัท (amalgamation) (ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ + ประมวลรัษฎากร มาตรา 73 และมาตรา 74 (2))

       A          +              B               =            C

      หมายถึง การรวมกิจการของบริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป รวมเข้าด้วยกัน และเกิดเป็นบริษัทใหม่ (A + B = C) เมื่อควบเข้ากันแล้วจะมีผลให้บริษัทเดิมสิ้นสภาพไปพร้อมกัน โดยที่บริษัทใหม่จะได้ไปทั้งสิทธิและความรับผิดชอบที่บริษัทเดิมมีอยู่

  •    A และ B            =     - เลิกกิจการโดยผลของกฎหมาย

                                  - ไม่ต้องจดทะเบียนเลิก

                                  - ไม่ต้องชําระบัญชี

                                  - ทรัพย์สิน, หนี้สิน, ทุน, ผู้ถือหุ้น ต้องมารวมอยู่ที่นิติบุคคลใหม่

                                  - ส่วนกรรมการจะตั้งขึ้นใหม่หรือเป็นกรรมการชุดเดิมบางส่วนก็ได้

  •    C                      =      - ต้องจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลขึ้นมาใหม่
  •    ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเช่นเดียวกันกับกรณีของการโอนกิจการทั้งหมด
  •    ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอนในกรณีที่มีการโอนที่สํานักงานที่ดิน

     จบหน้ากระดาษพอดีไว้พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ

Top 5 Contents